Audi A4 รุ่นใหม่แกะกล่อง
Audi A4 รุ่นใหม่แกะกล่อง ถือเป็นสายพันธุ์ที่ 4 ของรถยนต์ตระกูลนี้ โดยจุดกำเนิดของเอ4 เริ่มขึ้นในปี 1994 เมื่อออดี้คลอดสายพันธุ์แรกออกมาเพื่อทำตลาดแทนที่รุ่น 80 พร้อมกับการ เปลี่ยนแปลงในเรื่องงานออกแบบเพื่อยกระดับให้สามารถแข่งขันกับคู่ปรับอย่างซีรีส์ 3 และซี-คลาส ในรุ่นใหม่จะมากับรหัส B8 บนตัวถัง 4 ประตูที่มีความยาว 4,703 มิลลิเมตร กว้าง 1,826 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อมีความยาวถึง 2,808 มิลลิเมตร ถือว่าสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดตอนนี้ งานออกแบบถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างการประยุกต์เส้นสายของตัวถังและรูปทรงมาจาก รถสปอร์ตรุ่นเอ5 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ให้เข้ากับรายละเอียดปลีกย่อยที่หยิบยืมมาจากรถยนต์รุ่นอื่นๆ เช่น ไฟหน้าแบบ LED ก็มีส่วนคล้ายกับที่ใช้อยู่ในซูเปอร์คาร์รุ่นอาร์8 หรือรายละเอียดภายในห้องโดยสาร ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างเอ6 กับเอสยูวีระดับหรูคิว7 และตัวถังมีความเพรียวลมด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน หรือ Cd อยู่ที่ 0.27 เท่านั้น
ในช่วงแรกที่เปิดตัวมีเครื่องยนต์ให้เลือกไม่เยอะมาก เริ่มกับเบนซิน 2 รุ่นเป็นแบบไดเร็กต์ อินเจ็กชัน หรือ FSI แบบ 4 สูบ 1,800 ซีซี เทอร์โบ 160 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. และวี6 ทวินแคม 24 วาล์ว 3,200 ซีซี 265 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 33.6 กก.-ม. ที่มาพร้อมกับสมรรถนะไม่ธรรมดา ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 6.2 วินาที และความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ส่วนรุ่นเทอร์โบดีเซลมี 4 สูบ 2,000 ซีซี 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. และวี6 มี 2 ความจุ คือ 2,700 ซีซี 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม. และ 3,000 ซีซี 240 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 50.9 กก.-ม. ใช้เวลาในการทำอัตราเร่งดีกว่ารุ่นเบนซิน 3,200 ซีซีถึง 0.1 วินาที
เลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ 4 ล้อควอตโตรที่มีอัตราการกระจายแรงบิดจาก เครื่องยนต์สู่ล้อหน้า-หลังในระดับ 40:60 เลือกจับคู่กับระบบส่งกำลังทั้งแบบธรรมดา 6 จังหวะ, อัตโนมัติ 6 จังหวะ หรือว่าอัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT หรือ มัลติทรอนิก (Multitronic) พร้อมระบบ Audi Drive Select ซึ่งปรับการทำงานของเกียร์, เครื่องยนต์ และความหนืดของโช้กอัพในระบบช่วงล่างให้สัมพันธ์กับโหมดการขับที่ปรับเซ็ตเอาไว้ ซึ่งมีทั้งหมด 3 โหมด คือ Comfort, Auto และ Sport
ออดี้ไม่รอช้าในการทำตลาดส่งรุ่นพวงมาลัยซ้ายขายในยุโรปปลายปีนี้แน่ ส่วนพวงมาลัยขวาอย่างอังกฤษต้องรอต้นปีหน้า
|