|
|
|
|
Porsche 911 Carrera ปรับโฉมเพิ่มสมรรถนะ
4 ปีหลังจากที่พอร์ชส่ง 911 รุ่นล่าสุดที่มีรหัสตัวถัง 997 ลุยตลาดตั้งแต่ปี 2004 ในตอนนี้ แบรนด์รถสปอร์ตชื่อดังจากเมืองสตุ๊ตการ์ทเปิดศึกลุยตลาดรถสปอร์ตครั้งใหม่ จับ 911 ทั้งตัวถังคูเป้และเปิดประทุนของเวอร์ชันมาตรฐานคาร์เรรามาปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่ พร้อมปรับทัพยกยวงเครื่องยนต์สูบนอนด้วยการอัพเกรดสมรรถนะ และเพิ่มทางเลือกใหม่ด้วยเกียร์แบบพิเศษ
ประเด็นหลักของการเปลี่ยนแปลงใน 911 คาร์เรรา ไมเนอร์เชนจ์ คือ การอัพเกรดเครื่องยนต์สูบนอน หรือบ็อกเซอร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่พอร์ชนำระบบเบนซินไดเร็กต์อินเจ็กชัน หรือ Direct Fuel Injection (DFI) มาใช้กับขุมพลังรุ่นนี้ หลังจากในปีที่แล้วเคยนำมาใช้ครั้งแรกกับเครื่องยนต์แบบบล็อกวีของคาเยนน์ที่เปิดตัวในปี 2007 การนำระบบไดเร็กต์อินเจ๊กชันมาใช้ช่วยทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้ดีขึ้น เช่นเดียว กับการเพิ่มความประหยัดน้ำมัน ระดับการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง 15-20% พร้อมกับอัตราส่วนการอัดขยับขึ้นมาเป็น 12.5 : 1
ขณะที่เรี่ยวแรงของตัวรถก็ขยับขึ้นอีกเล็กน้อย โดยในรุ่นคาร์เรรา ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 6 สูบนอน ทวินแคม 24 วาล์ว 3,600 ซีซี กำลังเพิ่มขึ้น 20 แรงม้าเป็น 345 แรงม้า ส่วนรุ่นคาร์เรรา เอสตัวแรงซึ่งใช้เครื่องยนต์ที่มีความจุ 3,800 ซีซี มีกำลังอยู่ที่ 385 แรงม้าหรือเพิ่มขึ้น 30 แรงม้า อีกส่วนของการเปลี่ยนแปลง คือ การนำเกียร์แบบ DSG หรือดับเบิลคลัตช์พร้อมสไตล์การเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์แบบซีเควนเชียลมาใช้ โดยพอร์ชเรียกว่า Porsche Doppelkupplungsgetriebe (PDK) ในการถ่ายทอดกำลัง แต่ถ้าอยากขับแบบธรรมดา 6 จังหวะก็ยังมีขายเหมือนเดิม
โดยเกียร์แบบ PDK มีน้ำหนักเบากว่าเกียร์อัตโนมัติทิปทรอนิก เอสที่ใช้ในรุ่นที่แล้วถึง 10 กิโลกรัม ส่งผลต่อสมรรถนะโดยรวม ซึ่งในตัวถังคูเป้ของรุ่นคาร์เรร่า เอสสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 4.5 วินาที ดีกว่าคาร์เรรา เอสที่ใช้เกียร์ทิปทรอนิกส์ประมาณ 0.8 วินาที และ 0.2 วินาทีสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกมีให้สัมผัสกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะด้านท้าย ซึ่งมีการออกแบบไฟท้ายใหม่มีลักษณะโค้งคล้ายกับตัว D ตะแคง พร้อมกับกันชนท้ายที่ดูสปอร์ตขึ้น ขณะที่ด้านหน้ามีแค่กันชนหน้าเท่านั้นที่ดูสวยสปอร์ตขึ้น ส่วนล้อแม็กยังเป็นขนาด 17 นิ้วสำหรับรุ่นคาร์เรรา และ 18 นิ้วสำหรับคาร์เรรา เอส แต่เปลี่ยนลายใหม่
นอกจากนั้น ในตอนนี้ระบบควบคุมการทรงตัวที่เรียกว่า PSM หรือ Porsche Stability Management เช่นเดียวกับระบบช่วยเสริมการทำงานของเบรก หรือ Brake Pre-Filling and Brake Assistant ซึ่งที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือคาร์เรรา โฟร์ และตัวแรงในรหัสเทอร์โบขณะที่ตัวดิสก์เบรกมีการขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นเช่นกัน ทั้งด้านหน้าและหลังมีขนาด 330 มิลลิเมตร
พอร์ชยืนยันจะส่งเวอร์ชันปรับโฉมของคาร์เรรา และคาร์เรรา เอส ลุยตลาดทั้งพวงมาลัยซ้ายและขวาในช่วงเดือนหน้า โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 63,070 ปอนด์ หรือ 4.41 ล้านบาทสำหรับรุ่นคาร์เรรา 3.6 และรุ่นสูงสุด คือ คาร์เรรา เอส เปิดประทุนอยู่ที่ 77,650 ปอนด์ หรือ 5.43 ล้านบาท
Information refer from : http://www.manager.co.th/
|
|
|
|
|
|
|
|